รายละเอียด
รหัสสินค้า
1160101
ปีที่พิมพ์
2563
ชุด
-
เรื่อง
จอนนี แลมเบิร์ต
ภาพ
จอนนี แลมเบิร์ต
แปล
น้านกฮูก
ประเภท
นิทาน
ช่วงวัย
4-6 ปี
ขนาด
8.5 x 9.75 นิ้ว
จำนวน (หน้า)
28
ประเภทปก
ปกอ่อน
สำนักพิมพ์
แฮปปี้คิดส์
ISBN
9786164672741
ประเภทกระดาษ
อาร์ตการ์ด
ความหนาต่อแผ่น
300 แกรม
• นิทานภาพ ส่งเสริมพัฒนาการทางอารมณ์ และจิตใจ
เรื่องราวความน่ารักและสดใสของเจ้าสิงโตน้อย เมื่อเจ้าสิงโตตัวพี่ทะเลาะกับเจ้าสิงโตตัวน้อง พ่อสิงโตก็เข้ามาห้าม ทำให้สิงโตตัวพี่เดินออกมาด้วยความโมโห
สิงโตน้อยเดินไปเจอวัวป่าวิลเดอบีสต์และม้าลาย ซึ่งแนะนำให้มันกระทืบเท้าและเตะเพื่อระบายความโมโห แต่วิธีนี้ก็ยังไม่ถูกใจมันนัก สิงโตน้อยเดินต่อไปเจอแรดและฮิปโป ซึ่งแนะแนะนำให้มันวิ่งชนและสะบัดโคลน แต่วีธีนี้ก็ยังไม่ถูกใจมันอีกเช่นกัน
สิงโตน้อยเดินต่อไปด้วยความโมโห และชนเข้ากับก้นของช้างน้อย ทั้งสองแผดเสียงใส่กันดังลั่นด้วยความโมโหมากกว่าเดิม ทำให้สัตว์ต่างๆ ตื่นตกใจจนวิ่งหนีกันจ้าละหวั่น ลิงบาบูนผู้เห็นเหตุการณ์มาตั้งแต่ต้นจึงแนะนำให้ทั้งสองตัวลองหายใจเข้าลึกๆ แล้วนับ 1-10 ช้า ๆ สิงโตน้อยค่อยๆ หายโมโหและรีบกลับไปขอโทษน้อง เรื่องราวก็จบลงแบบแฮปปี้เอนดิ้ง
ความโกรธเป็นอารมณ์ที่เกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติ และเกิดขึ้นได้กับทุกคนไม่เว้นแม้แต่ผู้ใหญ่อย่างพวกเรา เมื่อเด็กถกขัดใจหรือไม่ได้ตามที่ใจปรารถนาก็จะมีอารมณ์โกรธหรือโมโหเป็นเรื่องปกติ เมื่อไม่สามารถห้ามความโกรธได้ เด็กจึงควรเรียนรู้วิธีจัดการกับความโกรธที่เกิดขึ้น และแสดงพฤติกรรมออกมาให้เหมาะสม การจัดการกับความโกรธของตนเองถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคุณครูและพ่อแม่ที่ต้องสอนให้กับเด็ก เพื่อให้พวกเขาเติบโตอย่างมีคุณภาพ ซึ่งมีวิธีว่ายๆ ในการสอนให้เด็กจัดการกับอารมณ์ของตัวเอง ดังนี้
1. ผู้ใหญ่ต้องเป็นแบบอย่างที่ดีในการจัดการกับความโกรธ
2. เข้าใจความโกรธของเด็ก
3. ปล่อยให้เด็กสงบก่อน แล้วค่อยอธิบายภายหลัง
4. รู้วิธีการระบายความโกรธ
(ฉบับรีพิมพ์จากนิทานเพื่อนรักปีที่ 18 ฉบับที่ 106 เดือน กันยายน 2562)
หนังสือเล่มนี้ได้รางวัล :
- โครงการหนังสือเล่มแรก Bookstart พ.ศ. 2563 โดยสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษากระทรวงศึกษาธิการ
เรื่องราวความน่ารักและสดใสของเจ้าสิงโตน้อย เมื่อเจ้าสิงโตตัวพี่ทะเลาะกับเจ้าสิงโตตัวน้อง พ่อสิงโตก็เข้ามาห้าม ทำให้สิงโตตัวพี่เดินออกมาด้วยความโมโห
สิงโตน้อยเดินไปเจอวัวป่าวิลเดอบีสต์และม้าลาย ซึ่งแนะนำให้มันกระทืบเท้าและเตะเพื่อระบายความโมโห แต่วิธีนี้ก็ยังไม่ถูกใจมันนัก สิงโตน้อยเดินต่อไปเจอแรดและฮิปโป ซึ่งแนะแนะนำให้มันวิ่งชนและสะบัดโคลน แต่วีธีนี้ก็ยังไม่ถูกใจมันอีกเช่นกัน
สิงโตน้อยเดินต่อไปด้วยความโมโห และชนเข้ากับก้นของช้างน้อย ทั้งสองแผดเสียงใส่กันดังลั่นด้วยความโมโหมากกว่าเดิม ทำให้สัตว์ต่างๆ ตื่นตกใจจนวิ่งหนีกันจ้าละหวั่น ลิงบาบูนผู้เห็นเหตุการณ์มาตั้งแต่ต้นจึงแนะนำให้ทั้งสองตัวลองหายใจเข้าลึกๆ แล้วนับ 1-10 ช้า ๆ สิงโตน้อยค่อยๆ หายโมโหและรีบกลับไปขอโทษน้อง เรื่องราวก็จบลงแบบแฮปปี้เอนดิ้ง
ความโกรธเป็นอารมณ์ที่เกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติ และเกิดขึ้นได้กับทุกคนไม่เว้นแม้แต่ผู้ใหญ่อย่างพวกเรา เมื่อเด็กถกขัดใจหรือไม่ได้ตามที่ใจปรารถนาก็จะมีอารมณ์โกรธหรือโมโหเป็นเรื่องปกติ เมื่อไม่สามารถห้ามความโกรธได้ เด็กจึงควรเรียนรู้วิธีจัดการกับความโกรธที่เกิดขึ้น และแสดงพฤติกรรมออกมาให้เหมาะสม การจัดการกับความโกรธของตนเองถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคุณครูและพ่อแม่ที่ต้องสอนให้กับเด็ก เพื่อให้พวกเขาเติบโตอย่างมีคุณภาพ ซึ่งมีวิธีว่ายๆ ในการสอนให้เด็กจัดการกับอารมณ์ของตัวเอง ดังนี้
1. ผู้ใหญ่ต้องเป็นแบบอย่างที่ดีในการจัดการกับความโกรธ
2. เข้าใจความโกรธของเด็ก
3. ปล่อยให้เด็กสงบก่อน แล้วค่อยอธิบายภายหลัง
4. รู้วิธีการระบายความโกรธ
(ฉบับรีพิมพ์จากนิทานเพื่อนรักปีที่ 18 ฉบับที่ 106 เดือน กันยายน 2562)
หนังสือเล่มนี้ได้รางวัล :
- โครงการหนังสือเล่มแรก Bookstart พ.ศ. 2563 โดยสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษากระทรวงศึกษาธิการ
สินค้าแนะนำ
บริษัท แปลน ฟอร์ คิดส์ จำกัด
เลขที่ 1/999 อาคารภูมิสรวล ถนนกำแพงเพชร 6แขวงดอนเมือง เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ 10210
© Copyright 2018 PLAN FOR KIDS.Co., Ltd. All right reserved.