หลายคนเข้าใจว่า การให้ลูกเล่นโทรศัพท์มือถือหรือสมาร์ทโฟนตั้งแต่เด็ก โดยเข้าใจว่าช่วยให้ลูกฉลาด เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ได้ไว แต่ความเป็นจริงแล้ว ส่งผลร้ายต่อพัฒนาการทั้งด้านสติปัญญา ความคิด ภาษา และการแสดงออกของพฤติกรรม
เวลา จึงเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นสำหรับเด็ก เพราะการให้เวลาที่มีคุณภาพ จะช่วยกระตุ้นพัฒนาการของเด็ก นั่นคือ เวลาให้ความรัก ความเอาใจใส่ การพูดคุย การรับฟัง และทำกิจกรรมร่วมกันกับเด็กทั้งระหว่างวันและก่อนเข้านอน
เลี้ยงลูกด้วยมือถือ...เกิดผลเสียอย่างไร ?
1. ด้านสติปัญญา ภาษา และการพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็ก
เด็กที่อายุยังน้อยยิ่งควรเลี่ยงกับเรื่องเหล่านี้ ส่งผลต่อแนวโน้มพัฒนาการ เช่น พูดช้า พูดไม่ชัด ขาดความคิดสร้างสรรค์ หรือพัฒนาการสมองที่แย่ลง และ การจ้องมองจอภาพเป็นเวลานานจะส่งผลเสียกับดวงตาได้ เช่น ทำให้สายตาสั้น ดวงตาแห้ง
2. ด้านพฤติกรรมและการแสดงออก
เด็กที่จดจ่อกับการเล่นมือถือหรือสมาร์ทโฟน จะมีพฤติกรรมก้าวร้าว สมาธิสั้น โลกส่วนตัวสูง สื่อสารกับคนน้อยลง จะเกิดพฤติกรรมขัดขืน ดื้อรั้น สิ่งเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการลดการใช้งานหน้าจอลง เบนความสนใจไปสิ่งอื่น เช่น สิ่งที่เด็กชอบหรือให้ความสนใจด้านอื่น ๆ
3. ด้านการนอนหลับ
เด็กที่อยู่กับหน้าจอมาก ๆ จะมีเวลาในการพักผ่อนนอนหลับลดลง ส่งผลต่อความจำ อารมณ์ เช่น ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ ไม่สามารถแยกระหว่างเรื่องจริงกับเรื่องในโลกมือถือได้ หงุดหงิดง่าย ใจร้อน รอคอยไม่เป็น เด็กขาดสมาธิไม่จดจ่อหรือตั้งใจทำกิจกรรมใด
ฉะนั้น การเล่นของเด็กที่เป็นพื้นฐานที่สำคัญของการพัฒนาความฉลาดทางปัญญา อารมณ์ และสังคม คือการเล่นตามวัยที่ถูกต้องเหมาะสม เพื่อกระตุ้นให้เด็กเกิดความคิดสร้างสรรค์ เช่น การเล่านิทาน การเล่นบทบาทสมมติ การออกเข้าสังคมกลุ่มเด็กในหมู่บ้าน หรือการทำกิจกรรมภายในครอบครัวที่อบอุ่น สิ่งเหล่านี้จะส่งผลต่อสุขภาพกายและจิตที่ดี เพื่อเป็นเด็กที่เติบโตขึ้นในสังคมอย่างมีความสุขต่อไป
* แหล่งข้อมูลบางส่วนจากบทความ : ลูกเล่นมือถือก่อนปฐมวัย เสียหายอย่างคาดไม่ถึง ธนาคารหนังสือเพื่อเด็กปฐมวัยออนไลน์