แค่เปิดจอทิ้งไว้ก็เป็นภัยกับลูกแล้ว
สื่อจออย่างทีวี สมาร์ทโฟนแท็บเล็ต ที่พ่อแม่เปิดไว้ดู ไว้ฟังเอง หรือแค่เปิดทิ้งไว้ตามความเคยชินในขณะที่ดูแลลูกไปด้วยนั้น เรียกว่าเป็น Background media มีงานวิจัยชี้ชัดว่า ส่งผลเสียต่อพัฒนาการเรียนรู้ของเด็ก ตั้งแต่ทำให้สติปัญญาล่าช้า เกิดพฤติกรรมดื้อต่อต้าน กระทั่งมีพฤติกรรมไปทางเด็กออทิสติก...
งานวิจัยโดย รศ.นพ.วีระศักดิ์ ชลไชยะ นำเสนอให้ผู้ใหญ่ตระหนักถึงภัยเงียบของสื่อกลุ่มนี้ เพราะแม้เด็กจะไม่ได้ดูจอโดยตรง แต่จอได้ดึงเวลาที่พ่อแม่ผู้ปกครองควรจะได้ใกล้ชิดกับเด็กไปแล้ว พร้อม ๆ กับเด็กก็สูญเสียโอกาสที่เซลล์สมองจะได้เจริญเติบโตอยู่ทุกวินาที หรือแม้แต่เด็กที่กำลังเล่นหรือทำกิจกรรมอื่นอยู่ แต่สื่อเหล่านี้อาจดึงความสนใจของเด็กให้ละจากกิจกรรมนั้น ๆ หันไปมองจอเป็นพัก ๆ ซึ่งเท่ากับรบกวนการเล่น รบกวนกระบวนการเรียนรู้ของเด็ก
คลิกชมสกู๊ปจากรายการ เปิดบ้านไทยพีบีเอส
คุณพ่อคุณแม่ที่สนใจหาอ่านได้จากหนังสือเรื่อง "ผลของสื่ออิเล็กทรอนิกส์ผ่านจอต่อเด็กและวัยรุ่น" เขียนโดย รศ.นพ.วีระศักดิ์ ชลไชยะ (หัวหน้าสาขาวิชาพัฒนาการและการเจริญเติบโต ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่ผลกระทบต่อการทำงานของสมองระดับสูง ต่อพัฒนาการเรียนรู้ ต่อพฤติกรรม ต่อการนอนหลับ และต่อสุขภาพจิต
พัฒนาการทางสมองของเด็กตั้งแต่แรกเกิด - 8 ปีขึ้นไป มีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะกำหนดตัวตนหรือหล่อหลอมบุคลิกภาพให้เด็กเติบโตขึ้นเป็นคนแบบไหน จะมีความรู้คิด มีจินตนาการ มีความยับยั้งชั่งใจ มีความสามารถกำหนดเป้าหมาย และโดยเฉพาะมีความสุขในแบบที่ควรจะเป็นได้หรือไม่นั้น...ขึ้นอยู่กับความใส่ใจดูแลของพ่อแม่ผู้ปกครองเป็นสำคัญ